กาวตะปู ทางเลือกที่สะดวกสำหรับงานติดตั้งทุกประเภท

กาวตะปูเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการติดตั้งวัสดุต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตะปู น็อต หรือสกรู อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น สะอาดขึ้น และลดความเสียหายของพื้นผิวเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการติดตั้งแบบเดิม ปัจจุบันกาวตะปูมีหลายประเภทและหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะกาวตะปู BOSNY M910 300 g., กาวตะปู MAXBOND, กาวตะปู SEALEX รุ่น SX-700 ขนาด 420 กรัม สีขาว และกาวตะปูแรงยึดสูงพิเศษ 3M ขนาด 38 มล. สีเบจ ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะกับงานแตกต่างกันไป ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับกาวตะปูให้มากขึ้น รวมถึงประเภท วิธีการใช้งาน และข้อดีของการเลือกใช้กาวตะปูแทนตะปูแบบเดิม

กาวตะปูคืออะไร?

กาวตะปู คือกาวเอนกประสงค์ที่มีแรงยึดเกาะสูง ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ติดตั้งวัสดุต่าง ๆ แทนการเจาะหรือยึดด้วยตะปู ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน อาคารสำนักงาน หรือแม้แต่งานก่อสร้างที่ต้องการความสะดวกและลดความเสียหายของพื้นผิว กาวตะปูสามารถยึดติดกับวัสดุหลายประเภท เช่น ไม้ ปูน คอนกรีต กระเบื้องเซรามิก กระจกเงา โฟมโพลีสไตรีน บัวผนัง และแผ่นโลหะ เป็นต้น

ประเภทของกาวตะปู

1. กาวตะปูสูตรน้ำ

กาวตะปูสูตรน้ำเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับงานภายในอาคาร มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือไม่มีกลิ่นฉุน ไม่แสบตา และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งยังแห้งเร็วและทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับพื้นผิวที่มีรูพรุน เช่น ผนังคอนกรีต ไม้อัด และไฟเบอร์ซีเมนต์ อย่างไรก็ตาม กาวประเภทนี้อาจไม่เหมาะกับงานภายนอกที่ต้องเผชิญกับความชื้นสูงหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อย

2. กาวตะปูสูตรน้ำมัน (สูตรโซลเวนท์)

กาวตะปูสูตรน้ำมันหรือสูตรโซลเวนท์เป็นประเภทที่มีความแข็งแรงและทนทานกว่ากาวตะปูสูตรน้ำ สามารถยึดติดวัสดุได้หลากหลาย เช่น งานไม้ โลหะ กระเบื้อง และคอนกรีต อีกทั้งยังทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวน เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร นอกจากนี้ยังสามารถทนอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียสได้อีกด้วย

กาวตะปูติดวัสดุอะไรได้บ้าง

• ไม้, ไม้อัด, ไฟเบอร์ซีเมนต์

• คอนกรีต, อิฐ, ปูนฉาบ

• กระเบื้องเซรามิก, กระจกเงา

• แผ่นโลหะ, เหล็ก, อะลูมิเนียม

• แผ่นโฟมโพลีสไตรีน, พลาสติกบางชนิด

คุณสมบัติเด่นของกาวตะปู

1. แห้งเร็ว ใช้งานง่าย - กาวตะปูสามารถแห้งไวและแข็งตัวภายในเวลาไม่นาน ทำให้สามารถจบงานได้เร็วขึ้น

2. ทนต่อสภาพอากาศ - กาวตะปูสูตรน้ำมันสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยทนต่ออุณหภูมิและความชื้นสูง

3. แรงยึดเกาะสูง - สามารถยึดติดวัสดุได้แน่นหนา ไม่ต้องกังวลเรื่องการหลุดลอก

4. ทนต่อรังสี UV - เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารที่ต้องเผชิญกับแสงแดดโดยตรง

5. ลดการใช้ตะปูและน็อต - ลดความเสียหายของพื้นผิวและลดเสียงรบกวนระหว่างการติดตั้ง
   
   
   

   

   

   

    

การเลือกกาวตะปูให้เหมาะสมกับงาน

1. กาวตะปู BOSNY M910 300 g.

• แห้งเร็ว ทนทาน เหมาะสำหรับงานไม้ คอนกรีต และพลาสติกบางประเภท

• ใช้งานง่ายด้วยหลอดบีบ

• เหมาะสำหรับงานภายในและงานติดตั้งทั่วไป

2. กาวตะปู MAXBOND

• มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อความชื้นและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง

• เหมาะสำหรับงานหนัก เช่น งานโครงสร้างหรืองานเฟอร์นิเจอร์

3. กาวตะปู SEALEX รุ่น SX-700 ขนาด 420 กรัม สีขาว

• สีขาวเนียน สวยงาม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบร้อย

• สามารถใช้ได้กับวัสดุหลายประเภท เช่น ไม้ กระเบื้อง และปูนฉาบ

4. กาวตะปูแรงยึดสูงพิเศษ 3M ขนาด 38 มล. สีเบจ

• ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก

• เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมขนาดเล็ก หรืองานติดตั้งที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ

วิธีใช้งานกาวตะปู

1. เตรียมพื้นผิว - ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น น้ำมัน หรือคราบสกปรก

2. ตัดปลายหัวฉีด - ให้มีความกว้างประมาณ 4 มิลลิเมตร

3. ใส่กาวลงในปืนยิง - เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

4. ยิงกาวลงบนพื้นผิว - สำหรับพื้นผิวไม่เรียบให้ยิงเป็นจุด ๆ ส่วนพื้นผิวเรียบให้ยิงเป็นเส้นตรงหรือซิกแซก

5. ติดตั้งวัสดุ - นำวัสดุที่ต้องการติดตั้งประกบเข้ากับพื้นผิวแล้วกดให้แน่น

6. รอให้แห้ง - สำหรับวัสดุเบาอาจใช้เวลา 3-5 นาที ส่วนวัสดุหนักให้ใช้เครื่องมือจับยึดทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง
   
   

กาวตะปูเป็นตัวช่วยที่ทำให้การติดตั้งวัสดุเป็นเรื่องง่ายและสะดวกขึ้น ไม่ต้องเจาะ ไม่ต้องใช้ตะปู และลดความเสียหายของพื้นผิว เพียงเลือกกาวตะปูที่เหมาะสมกับประเภทของงาน ไม่ว่าจะเป็นกาวตะปู BOSNY M910 300 g., กาวตะปู MAXBOND, กาวตะปู SEALEX รุ่น SX-700 ขนาด 420 กรัม สีขาว หรือกาวตะปูแรงยึดสูงพิเศษ 3M ขนาด 38 มล. สีเบจ ก็สามารถมั่นใจได้ว่าการติดตั้งจะมีประสิทธิภาพ แข็งแรง และทนทานแน่นอน

โพสต์เมื่อ 12/3/2568   14:52:23